หนังสือเล่มนี้เหมาะกับใครบ้าง?
จะอ่านหนังสือเล่มนี้ ควรมีทักษะหรือความรู้อะไรมาก่อนบ้าง?
จะทดลองทำตามตัวอย่างที่อธิบายในหนังสือ ต้องมีอะไรบ้าง?
บทที่ 1 เริ่มต้นสร้าง Google Account กันก่อน Google Account ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการใช้บริการส่วนใหญ่ของ Google เพราะใช้ระบุตัวตนว่าเราคือใคร ก่อนไปดูกันว่าเราสามารถใช้ประโยชน์ของ Google มาช่วยทำเงินและทำการตลาดได้ยังไงบ้าง เราจึงควรไปสมัครสร้าง Google Account กันให้เรียบร้อยเป็นอย่างแรก
บทที่ 2 ยิ่งเสิร์ชข้อมูลเก่ง ยิ่งได้เปรียบ ชื่อ Google เป็นที่รู้จักจากบริการ Web Search หรือการค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ ทั่วโลก ซึ่ง Google ก็ได้พัฒนาความสามารถหลักนี้ไปอย่างไม่หยุดยั้ง ปัจจุบันบริการ Web Search ของ Google มีเครื่องมือช่วยเหลือในการเสิร์ชมากมายก่ายกอง เรียนรู้เทคนิคในบทนี้ แล้วคุณจะใช้ประโยชน์จาก Google ได้อย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน
บทที่ 3 เสิร์ชภาพหลากสไตล์มาใช้ทำเงิน นักกราฟิกดีไซน์ นักออกแบบเว็บไซต์ หรือคนทำงานศิลปะต่างๆ คงหลีกไม่พ้นต้องหาแหล่งภาพดีๆ มาใช้ในงานของตัวเอง หรือหาไอเดียเด็ดๆ จากภาพกราฟิกในโลกอินเทอร์เน็ต บริการ Google Images ตอบโจทย์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี แถมถ้าเราต้องการภาพถ่ายโดยเฉพาะ ยังใช้บริการ Google Photos ได้อีกต่างหาก ทุกเทคนิคการเสิร์ชหาภาพจากอินเทอร์เน็ตรวมอยู่ในบทนี้แล้ว
บทที่ 4 สำรวจเทรนด์ตลาดด้วย Google Trends Google Trends คือบริการที่มีความสามารถตรงตามชื่อ นั่นคือช่วยสำรวจเทรนด์หรือกระแสนิยมในโลกอินเทอร์เน็ตว่า แต่ละช่วงเวลาคนส่วนใหญ่ฮิตเรื่องอะไร ประเด็นไหนเป็นประเด็นฮอต อะไรที่อยู่ในความสนใจของคนทั่วไป ถ้าหยิบข้อมูลตรงนี้มาใช้ประโยชน์ คุณก็วางแผนการตลาดได้อย่างตรงเป้าขึ้น
บทที่ 5 เสิร์ชแบบเจาะลึกด้วย Google Insights for Search นี่คืออีกบริการของ Google ที่มีความสามารถคล้ายคลึงกับ Google Trends เพียงแต่จะให้ข้อมูลในเชิงลึกมากกว่า ให้รายละเอียดมากกว่า และไม่ได้เน้นการหาข้อมูลในเชิงเปรียบเทียบเหมือนกับ Google Trends นอกจากใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อวางแผนการตลาดแล้ว นักหารายได้ออนไลน์และนักการตลาดออนไลน์ยังวิเคราะห์คีย์เวิร์ดได้จากบริการ Google Insights for Search อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
บทที่ 6 นักซื้อ-ขายออนไลน์ต้องใช้ Google Product Search ใครเป็นพ่อค้าคนกลาง มองหาสินค้าดีๆ เพื่อซื้อมาแล้วขายไปเอากำไรส่วนต่าง หรือแม้แต่คนที่ต้องการช็อปปิ้งสินค้าออนไลน์ทั่วๆ ไป บริการ Google Product Search จะช่วยให้ข้อมูลสินค้าสารพัดแก่คุณได้ในพริบตา โดยเฉพาะการเปรียบเทียบราคาสินค้านั้นๆ จากผู้ขายแต่ละราย รู้ราคามาตรฐานแล้ว คุณจะได้ไม่ถูกใครหลอกต้มให้เจ็บใจ
บทที่ 7 แปลภาษาหาช่องทำเงินด้วย Google Translate แม้ในโลกนี้ยังไม่มีเครื่องมือแปลภาษาอังกฤษเป็นไทยซึ่งทำงานได้อย่างไร้ที่ติ สาเหตุก็เพราะความยืดหยุ่นและโครงสร้างทางภาษาที่แตกต่างกัน แต่ Google Translate ก็ถือเป็นเครื่องมือแปลภาษาชั้นดีที่จะช่วยให้งานของคุณง่ายขึ้น ยิ่งคุณมีอาชีพเกี่ยวข้องกับการแปลภาษา คุณยิ่งควรเรียนรู้ทุกเทคนิคการใช้งาน Google Translate ให้ครบครัน
บทที่ 8 ทำเงินกับ Blogger ไม่มีบริการสร้างบล็อกเจ้าไหนจะโด่งดังและเป็นที่นิยมเท่ากับ Blogger ของ Google อีกแล้ว ที่สำคัญ Blogger ยังเหมาะกับคนที่คิดสร้างบล็อกเพื่อต่อยอดไปสู่การหารายได้ออนไลน์ เพราะมีเครื่องมือสนับสนุนเรื่องนี้เพียบ นอกจากนี้ขั้นตอนการสร้างบล็อก การโพสต์บทความ และปรับแต่งบล็อกในแง่มุมต่างๆ ก็ยังง่ายดายพอๆ กับการปอกกล้วยเข้าปาก
บทที่ 9 สร้างเว็บไซต์ไว้ทำเงินง่ายๆ สไตล์ Google Sites แม้บริการสร้างเว็บไซต์ฟรีๆ อย่าง Google Sites จะไม่ได้รับการพูดถึงมากนัก แต่ก็ถือเป็นเครื่องมือดีๆ ที่น่าลองใช้ โดยเฉพาะพวกมือใหม่ที่ไม่รู้เรื่องการสร้างเว็บไซต์ ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน แค่เสียเวลาสมัครใช้งาน Google Sites แป๊บเดียว คุณก็มีเว็บไซต์เป็นของตัวเองแล้ว จากนั้นจะประยุกต์เว็บไซต์ไปหารายได้ยังไง ก็ทำได้ตามใจชอบเลย
บทที่ 10 เสิร์ชข้อมูลมาลงเว็บ/บล็อกด้วย Google News + Google Scholar การเขียนบทความลงบล็อก หรือการหาข้อมูลใหม่ๆ มาอัปเดตเว็บไซต์ ถือเป็นเรื่องปกติสามัญที่เว็บมาสเตอร์ทุกคนต้องทำ บางครั้งเมื่อคิดแก๊กอะไรไม่ออก สมองเกิดหยุดทำงานดื้อๆ จนไม่รู้จะหาหัวข้อไหนมาเขียน หรือมีเรื่องอยากเขียนแต่หาแหล่งข้อมูลไม่ได้ ทั้ง Google News และ Google Scholar ก็พร้อมเป็นแหล่งข้อมูลชั้นดีให้คุณหยิบยืมมาใช้งาน
บทที่ 11 Google AdSense ได้เงินจริง ได้เงินชัวร์ ถ้าว่าด้วยเรื่องการหารายได้ทางอินเทอร์เน็ตแล้ว ไม่มีวิธีการหารายได้วิธีไหนจะได้รับความนิยมล้นหลามเท่ากับ Google AdSense เพราะการหารายได้กับ Google AdSense ทำได้ไม่ยากเกินไปนัก แล้วก็สร้างรายได้ให้จริง ยิ่งบางคนเรียนรู้เทคนิคจนเป็นเซียน Google AdSense ก็ยิ่งสามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำกันเลยทีเดียว
บทที่ 12 ขายสินค้าด้วยคลิปใน YouTube คนส่วนใหญ่นิยมแค่ดูคลิป ดาวน์โหลดคลิปมาเก็บไว้ หรืออัปโหลดคลิปของตัวเองขึ้นไปโชว์ โดยหารู้ไม่ว่าคลิปวิดีโอก็เป็นอีกช่องทางทางการตลาดที่ช่วยโปรโมตเว็บไซต์หรือขายสินค้าได้ ขอแค่รู้จักประยุกต์ใช้ให้เป็น เล่นให้ถูกช่อง คลิปวิดีโอก็อาจโกยเงินเข้ากระเป๋าคุณได้แบบเนียนๆ
บทที่ 13 วิเคราะห์สถิติเว็บไซต์ด้วย Google Analytics เว็บมาสเตอร์คนไหนไม่เคยลองใช้ความสามารถของ Google Analytics ก็พูดได้คำเดียวว่า ช่างน่าเสียดายเอามากๆ เพราะ Google Analytics เป็นบริการชั้นดีที่จะช่วยวิเคราะห์สถิติต่างๆ ของเว็บไซต์คุณ เช่น จำนวนคนเยี่ยมชม, จำนวนเว็บเพจที่ถูกเปิด, ที่มาของผู้เยี่ยมชมเหล่านั้น ฯลฯ ได้ข้อมูลดีๆ ตรงนี้ไป คุณก็ปรับปรุงเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมนักเล่นเน็ตได้ง่ายขึ้น
บทที่ 14 ทำ SEO สุดพลังด้วย Google Webmaster Tools พูดถึงการทำ SEO หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้เป็นที่ถูกใจ Google แล้ว ไม่มีเครื่องมือตัวไหนจะใช้งานได้ตรงเป้าและมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมเท่ากับ Google Webmaster Tools ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่านี่เป็นเครื่องมือสำหรับเว็บมาสเตอร์โดยเฉพาะ เว็บมาสเตอร์คนไหนทำ SEO ได้ดี เว็บก็มีคนเข้าเยอะ แล้วเงินทองก็ย่อมไหลมาเทมาเป็นเรื่องธรรมดา
บทที่ 15 หาง่ายก็ค้าขายคล่องด้วย Google Maps บริการแผนที่ออนไลน์ซึ่งใช้ค้นหาตำแหน่งที่อยู่ต่างๆ ได้ทั่วโลกมีชื่อว่า Google Maps ส่วนบริการที่จะช่วยเพิ่มตำแหน่งของเราลงใน Google Maps จะเรียกว่า Google Places ใครทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้า หรือธุรกิจอะไรก็ตามที่ลูกค้าจำเป็นต้องเดินทางมาเยือน การเพิ่มตำแหน่งของธุรกิจตัวเองลงใน Google Maps ย่อมช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น เพราะใครๆ ก็หาคุณเจอ
บทที่ 16 ขายของผ่านอีเมลด้วย Gmail หลายคนมองข้ามการทำการตลาดผ่านอีเมลไป เพราะคิดแค่ว่าอีเมลมีไว้สำหรับติดต่อเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงานทั่วๆ ไปเท่านั้น แต่ถ้าสังเกตดูสักหน่อยจะเห็นว่า บริษัทใหญ่โตระดับโลกจำนวนมากใช้วิธีการเสนอขายสินค้าผ่านอีเมลโดยตรง เรียกว่าเป็นการทำการตลาดแบบถึงลูกถึงคน ถ้าคุณเป็นนักขาย แต่ไม่ลองขายของผ่าน Gmail ของ Google ก็เรียกว่าใกล้เกลือกินด่างแล้วล่ะ
บทที่ 17 เก็บตกเครื่องมือช่วยทำการตลาดจาก Google ยังมีเครื่องมือดีๆ ฟรีๆ จาก Google อีกหลายตัวที่เราหยิบมาใช้ทำการตลาดหรือเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจต่างๆ ได้ เครื่องมือเหล่านี้ใช้งานยากง่ายแตกต่างกันไป คุณสมบัติหรือความสามารถก็แตกต่างกันไปด้วย ลองเรียนรู้ดูว่ามีเครื่องมืออะไรอีกบ้างที่คุณยังไม่รู้จัก แล้วก็คิดเอาเองว่าเครื่องมือตัวไหนจะช่วยติดปีกให้ธุรกิจของคุณได้
|
||||
Copyrights © 2006-3006, Witty Group Co., Ltd. |